กล้องวงจรปิดบูมรับสนข.-บชน.ดึงเอกชนติดตั้งจับผู้ฝ่าฝืนกฎจราจร

ในช่วงนี้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) มีแนวคิดที่จะดึงภาคเอกชนมาลงทุนติดตั้งกล้องวงจรปิด (Closed Circuit Television =CCTV) เพื่อจับรถยนต์ที่ขับขี่ฝ่าฝืนกฎจราจร โดยให้เอกชนลงทุนในการติดตั้งกล้องและอุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงการบำรุงรักษาอุปกรณ์ โดยกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) จะต้องแบ่งส่วนส่วนแบ่งค่าปรับที่ได้จากการใช้กล้องให้เอกชน เพื่อให้มีจำนวนกล้องครอบคลุมพื้นที่มากขึ้น ทำให้ผู้ขับขี่ปฏิบัติตามกฎจราจรมากขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาสำคัญที่ทำให้การจราจรติดขัด ซึ่งจะดำเนินการภายใน พ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ หรือ พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ คล้ายๆ กรณีที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ให้เอกชนลงทุนก่อสร้างทางพิเศษแล้ว กทพ.จ่ายเงินส่วนแบ่งค่าผ่านทางคืนให้ตามสัดส่วนที่ได้ทำสัญญากันไว้

นอกจากนี้อาจต้องปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องอีกก็สามารถดำเนินการได้ เบื้องต้นได้หารือกับทาง บช.น.และกรุงเทพมหานคร (กทม.) แล้วทั้งสองฝ่ายเห็นด้วย ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียดก่อน คาดว่าภายใน 2 เดือนจะได้ข้อสรุป ทั้ง สนข. จะหางบประมาณให้ บช.น.ไปศึกษารายละเอียดของโครงการ คาดว่าน่าจะใช้ประมาณ 10 ล้านบาท เมื่อศึกษาเรียบร้อยแล้วจะนำเข้าขออนุมัติโครงการต่อที่ประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) และที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป

แน่นอนสำหรับโครงการนี้ไม่ได้ทำให้อำนาจในการจับปรับผู้กระทำผิดกฎจราจรเปลี่ยนแปลงไป โดยอำนาจการจับปรับบังคับใช้ตามกฎหมายยังคงเป็นของตำรวจตามเดิม ส่วนเอกชนที่ลงทุนติดตั้งกล้องเป็นเพียงผู้ที่นำหลักฐานผู้กระทำผิดมาให้ตำรวจ

ในการเปิดประกวดราคาต้องมีการศึกษาตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ ต้องมีรายละเอียดว่าเอกชนที่เข้ามาลงทุนต้องดูแลรักษาให้อุปกรณ์ใช้งานได้กี่ปี และจะมีสัดส่วนในการจ่ายส่วนแบ่งค่าปรับอย่างไร จึงจะเหมาะสมและเป็นการเอื้อประโยชน์ต่อเอกชนมากเกินไป ซึ่งเชื่อว่าจะมีรายได้จากค่าปรับมากขึ้น เพราะกล้องสามารถจับผู้กระทำผิดได้ตลอด 24 ชั่วโมง

โดย สนข. จะพิจารณาติดกล้องวงจรปิดในทุกข้อหาที่กล้องจับได้ ทั้งรถฝ่าไฟแดง รถปาดเส้นทึบ เบียดแทรกคอสะพาน ทางร่วมทางแยก ฯลฯ ซึ่งหากโครงการนี้ผ่านครม.จะสามารถนำหลักการไปใช้กวดขันวินัยจราจรได้ทั่วประเทศ ไม่เพียงเฉพาะการบังคับใช้ในพื้นที่กรุงเทพฯเท่านั้น และสามารถขยายพื้นที่ติดกล้องได้เร็วกว่าการรอของบประมาณติดตั้ง ก็หวังว่า สนข. และ บช.น. จะคัดเลือกเอกชนในการจัดหาติดตั้งกล้องวงจรปิดโดยความโปร่งใส ใช้งานได้จริง อีกทั้งไม่มีการกำหนดหรือล็อคสเปกหรือไม่ และคงไม่ติดตั้งหลอกๆ มีเพียงกล่องเปล่า ไม่มีกล้องจริงๆเหมือนกทม.

ดังนั้นจะเห็นว่ากล้องวงจรปิดและระบบที่จะใช้ติดตั้งสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้มากมายมหาศาล ไม่ว่าจะหน่วยงานราชการต่างๆ จะใช้เพื่อประโยชน์ส่วนรวมหรือสาธารณะ ใช้ในวงการธุรกิจ โดยเฉพาะการใช้กล้องวงจรปิดสำหรับที่อยู่อาศัยในป้องกันภัยอันตรายต่างๆ หรือใช้ตรวจสอบภาพย้อนหลังเพื่อจับภาพโจรที่มาลักขโมยสิ่งของมีค่าภายในบ้าน นับวันธุรกิจกล้องวงจรปิดจะขยายตัวหรือบูมขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเศรษฐกิจจะซบเซาหรือเจริญรุ่งเรืองก็ตาม อย่างกรณี สนข.และบช.น.จะมีการจัดจ้างให้เอกชนติดกล้องวงจรปิด เพื่อจับรถยนต์ที่ขับขี่ฝ่าฝืนกฎจราจรในทั่วประเทศก็ยิ่งทำให้ธุรกิจประเภทนี้เติบโตเป็นดอกเห็ด

ตอนนี้จึงต้องมารู้จักกับกล้องวงจรปิดกันว่าคืออะไร และมีกี่ประเภท อะไรบ้าง มีวิธีการเลือกกล้องกันอย่างไร กล่าวคือ “ระบบกล้องวงจรปิด” เป็นการส่งสัญญาณภาพจากกล้องวงจรปิดที่ได้ติดตั้งตามสถานที่หรือจุดต่างๆ ไปยังส่วนที่รับภาพหรือจอภาพ ( Monitor ) ซึ่งอยู่คนละที่กับกล้องวงจรปิด

สำหรับชุดติดตั้งกล้องวงจรปิดและอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ในระบบกล้องวงจรปิด อาทิ
1. กล้องวงจรปิด (CCTV Camera)
2.เลนส์กล้องวงจรปิด
3. เครื่องบันทึกภาพกล้องวงจรปิด ( Digital Video Recorder หรือ DVR )
4. จอภาพ (TV หรือ LCD Monitor)
5. กล่องครอบกล้องวงจรปิดทั้งแบบภายในและภายนอกอาคาร
6. กล่องควบคุมการทำงานของกล้องวงจรปิด
7. สายสัญญาณภาพสำหรับเดินสายให้กล้องวงจรปิด
8. และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น สายไฟ, รีโมทคอนโทรล IP Checker สำหรับดูกล้องวงจรปิดออนไลน์, มือถือหรือ Smart Phone ระบบปฏิบัติการ IOS หรือ Android พร้อมแอพพลิเคชั่น

หากต้องการดูภาพผ่านมือถือด้วย หากถามว่ากล้องวงจรปิดมีแบบใดบ้างก็คงตอบลำบาก เพราะปัจจุบันนี้ กล้องวงจรปิดมีหลายชนิดด้วยกัน เช่น กล้องวงจรปิดมาตรฐาน ซึ่งใช้การติดตั้งได้ในทุกๆสถานที่ เหมาะในการใช้สำหรับการป้องกันอาชญากรรมและใช้การตรวจสอบเหตุการณ์ต่างๆ ซึ่งกล้องวงจรปิดประเภทนี้ยังติดตั้งได้ง่าย และ ค่าบำรุงรักษาต่ำ, กล้องโดม กล่องประเภทมีการออกแบบมาให้มีความกะทัดรัด รูปทรงโดมครึ่งวงกลมมีขนาดที่กะทัดรัด เหมาะกับการติดตั้งภายในอาคารหรือสำนักงานต่างๆ โรงแรม คอนโดมิเนียม และธนาคารต่างๆ โดยจะนิยมติดตั้งบนฝ้าเพดานและไม่เหมาะกับการใช้ภายนอกอาคาร เพราะไม่ได้ออกแบบให้ป้องกันน้ำนั่นเอง

นอกจากนี้ยังกล้องวงจรปิดประเภทอินฟาเรด เป็นกล้องวงจรปิดที่ใช้งานได้ทั้งกลางวันและกลางคืน โดยในเวลากลางวันตัวกล้องจะแสงภาพเป็นภาพสี และในเวลากลางคืนตัวกล้องวงจรปิดจะเปลี่ยนไปเป็นโหมดภาพขาว-ดำอัตโนมัติ ซึ่งเหมาะกับการใช้งานใน สถานที่ๆค่อนข้างมืดหรือมืดสนิท, กล้องวงจรปิดแบบแอบซ่อนเหมาะสำหรับงานที่เป็นความลับและไม่ให้รู้ว่ามีกล้องติดอยู่ กล้องชนิดนี้จึงมีขนาดเล็กกะทัดรัด เช่น กล้องรูเข็ม กล้องหลอดไฟ กล้องกระจก, กล้องวงจรปิดแบบซูมได้ และกล้องวงจรปิดแบบ Bullet ฯลฯ

แบรนด์หรือยี่ห้อที่มีให้เลือก อาทิ Bosch, Panasonic, LG, JVC, Fujiko, Avtech, Samsung, Kenpro และ Pelco ซึ่งอาจจะเลือกจากโปรโมชั่นที่ตามที่ผู้แทนจัดจำหน่ายจัดขึ้นในแต่ละช่วงเวลา หรือเลือกจากประเภทการใช้งานหรือสถานที่ต้องใช้กล่องวงจรปิด เช่น ตามแยกไฟแดง หน้าบ้านหรือภายในบ้าน รวมทั้งติดตั้งในแต่ละชั้นของอาคารสำนักงานหรือคอนโดมิเนียม ฯลฯ

โดยแต่ละบริษัทมีผลิตภัณฑ์ให้เลือกแตกต่างกัน แต่ที่สำคัญต้องเลือกบริษัทหรือตัวแทนจำหน่ายที่มีช่างที่ชำนาญหรือมีประสบการณ์ช่วยติดตั้งให้ ดีกว่าการซื้อไปติดตั้งเอง เนื่องจากมีช่างที่มีประสบการณ์ในการติดตั้งกล้องวงจรปิดมาเป็นระยะเวลายาวนาน

บริษัทที่จำหน่ายหรือตัวแทนที่จำหน่วยส่วนใหญ่จะมีการรับประกัน และมีบริการขายให้ด้วยในระยะเวลานานพอสมควร และหากเราติดตั้งกล้องวงจรปิดโดยการขาดความรู้และไม่มีเทคนิคในการติดตั้ง อาจจะทำให้เกิดอันตรายได้ เช่น กรณีเกิดไฟฟ้าลัดวงจร หรือไฟไหม้ ฯลฯ ผู้ที่จะติดตั้งกล้องเองจึงต้องห้ามประมาทดังคำโบราณที่ว่า “กันไว้ดีกว่าแก้”